วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2554

จดหมายฉบับที่ ๒

จดหมายฉบับที่ ๒

ถึงป้อม( ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๔๙)
ตอนนี้ป้อมพยายามทำการบ้านไปเรื่อย ๆ ก่อน เหตุและผลก็จะตามมาเอง โดยเกิดจากการกระทำที่เราได้เป็นผู้ให้ ทุกสิ่งทุกอย่างดับสูญหมด ยกเว้นตัวรู้อย่างเดียวที่อยู่กับเราตลอดไป ทุกข์เรารู้ สุขเรารู้ ทุกอิริยาบถของเรา เกิดแล้วดับไป แม้นแต่อารมณ์ที่ขุ่นมัว สิ่งต่าง ๆ ที่ไม่ดีทั้งหลาย เช่น โกรธ เกลียด ไม่ชอบ สิ่งที่หลงทุกอย่าง หลงทรัพย์สมบัติ หลงตัวเอง หลงทุ่มเท หลงสวยงาม หลงการบ่น การด่า การว่า ทุกขณะตัวรู้ ก็จะต้องเป็นกรรมการรับรู้ทั้งหมด การแบ่งบุญให้กับสิ่งที่เราสัมผัสได้แก่ตัวเรา ก็รู้ว่าบุญที่เราแบ่งให้ เกิดจากการกระทำที่เราได้จากตัวเราเอง ตอนนี้เราทำแบบปลวกไปก่อน คืออยู่แบบใต้ดินไปก่อน โดยไม่มีใครเห็น มีพระแม่ธรณีรู้ว่าเราทำ แค่นี้พอแล้ว ต่อไปบุญเพิ่มมากขึ้น ก็จะขึ้นจากใต้ดินอยู่เหนือพื้นดิน เหมือนจอมปลวก สูงขึ้นเรื่อย ๆ เห็น ชั้น วรรณะ ของตัวเองที่อยู่ในที่มืด ถึงที่สว่าง คือเหนือชั้นดิน ออกมาอยู่ชั้นของอากาศ คืออิสระ ไม่สูง ไม่ต่ำ อยู่กลาง ๆ คือความพอดีของจิตเรา แม้นแต่นกที่ป้อมเห็นเขาบอกธรรมมะป้อม สิ่งที่เขาต้องการ คืออาหารที่ทำให้กายสังขาร ปีกและขาเขาได้บินไปบนอากาศ โดยไม่ต้องพึ่งอะไรนอกเหนือจากตัวเอง คนเราเกิดมาเราเอาจิตของเรา ฝากไว้ตามที่ต่าง ๆ โดยไม่ได้อยู่ในตัวเรา เหมือนรามเกียรติ์ ที่ฝากจิตไว้ในที่หนึ่ง แต่คนเราฝากไว้หลายที่ ทุกข์เกิดขึ้นมากมาย ไม่มีใครทำให้เราทุกข์ นอกจากตัวเรา ที่ยังหลงอยู่ไม่พยายามแยกแยะ เราอยู่กับความเป็นจริงของตัวเรา การที่เราได้ไปถึงวัด เราได้ความเพียรจากการไปแล้ว แล้วเราได้ทำที่เรียกว่าบุญนั้นแหละ คือเพียรทำบุญเพื่อตัวเราเอง เราจะผ่านความไม่ดีของตัวเราก่อน ถึงจะไปผ่านบุคคลอื่นได้ จะรู้ถึงความสงบ ว่าง และใส และธรรมมะถึงเกิดขึ้นในจิตของตัวเรา เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเล่าให้ใครฟังก็ได้ ที่เขาเคยผ่านสิ่งเหล่านี้มาแล้ว และเข้าใจเรื่องบุญพอ แต่ดูบุคคลที่เราจะพูดด้วยว่าเขารู้จักคำว่า จิตวิญญาณ ในตัวเรา และนอกตัวเรา เป็นอย่างไร ใจเป็นอย่างไร จิตเป็นอย่างไร ดูทั้งกายภายนอก และกายภายใน ใสจากภายในมาภายนอกหรือยัง ถ้ายัง ก็ทำไปเรื่อย ๆ ต้องไปขอความพยายามที่มีอยู่ในตัวเรา ให้เขาเพิ่มความพยายามมากขึ้นไปอีก ถึงระดับความว่างของจิตเรา
เปรียบทางโลก เหมือนขึ้นต้นไม้ จากโคนต้นไปถึงยอด ถึงเก็บผลได้ ธรรมมะก็เช่นกัน รู้ได้ หลุดพ้นได้ ด้วยตัวของตัวเอง ทุกอย่างที่เราทำ ขอให้ป้อมผ่านความพยายามไปเรื่อย ๆ เหนื่อย เมื่อย พัก ตื่นมาพยายามใหม่ แล้วเดินทางต่อไป ตาเห็นแสงเทียนที่ได้บอกถึงความเป็นมงคล หูฟังธรรมมะที่ใจ บุญเข้าหูจากการได้รับฟัง ณ ที่นั้น

วาจาเราพูดธรรมมะ ณ ที่ใด ผลบุญเกิดขึ้น ณ ที่นั้น
การกระทำ กาย วาจา ใจ และจิต ทำผลบุญพร้อมกัน การหลุดพ้นเกิดขึ้น ณ ที่นั้น

สิ่งที่ป้อมเขียนมา สิ่งที่เข้าใจ ถูกต้อง จงดูให้ลึกแล้วจะเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่เราเห็นเป็นธรรมดาทั้งหมด มีก็ธรรมดา รู้ก็ธรรมดา สุขก็ธรรมดา ทุกข์ก็ธรรมดา โกรธก็ธรรมดา บ่นก็ธรรมดา ว่าก็ธรรมดา ไม่มีก็ธรรมดา เสียใจก็ธรรมดา ขุ่นมัวก็ธรรมดา เจ็บก็ธรรมดา เห็นคนที่ไม่ดีก็ธรรมดา เห็นสิ่งที่ดีก็ธรรมดา เฉย ๆ ว่าง ๆ นิ่งและสงบ คือตัวตนที่แท้จริงของเรา

ให้ทำการบ้านและหาคำตอบเอาเองนะว่าที่เขียนแต่ละข้อ ไม่เกิดแล้วเป็นอะไรในตัวของตัวเรา
1. ไม่โกรธ 2. ไม่เกลียด 3. ไม่ทุกข์ 4. ไม่วิตกกังวล 5. ไม่คิดล่วงหน้า 6. ไม่มีความขุ่นมัว

ความสุขไม่เกิด ความชอบไม่เกิด ความหลงไม่เกิด
มีจิตที่ว่าง มีอารมณ์ที่ใส มีธรรมมะทุกข้อ แล้วเราก็จะเห็นตัวเรา ในสิ่งที่เราได้ทำทุกวัน

พยายามอ่านให้เข้าจิต แล้วก็จะรู้ธรรมมะได้ด้วยตัวเอง
สว่าง วาสสนิท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น