วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2554

บทเรียนธรรมะจากอาจารย์ (จดหมายฉบับที่ ๑)

เรื่องที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้เป็นบทเรียนธรรมของอาจารย์ที่ช่วยให้ข้าพเจ้าสามารถมีพลังชีวิต มีสติ เพื่อศึกษาต่อจนจบ

จดหมายฉบับที่ ๑
ถึงป้อม (9 พฤษภาคม 2549)
ป้อมไม่ได้อยู่คนเดียวเหมือนกายป้อม แต่ฉันเอาจิตของฉันไปดูเธอตลอด เพียงแต่ป้อมยังสัมผัสฉันยังไม่ได้ วันใดที่จิตป้อมเหงา ป้อมลองเอาจิตมาที่ฉัน ป้อมต้องทำจิตของป้อมให้ว่างก่อน ป้อมก็จะสัมผัสกับฉันได้ ธรรมะเริ่มต้นได้หลายทาง การให้กะการยึด
1. การให้ คือการกระทำเอาผลที่เรียกว่าบุญให้เขาได้รับ เรียกว่าทานบาระมี
2. การยึด ทำกายให้มีสมาธิ
แต่กายของเราดับสูญ แต่จิตวิญญาณของเราไม่ดับสูญ ต้องไปเกิด ตามภพภูมิต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีวันสิ้นสุด
สิ่งแรกของคนเรา ของสรรพสัตว์ หรือว่าต้นไม้แม้นแต่สิ่งที่มีชีวิต ล้วนแล้วต้องการอาหารเป็นปัจจัยแรกของสิ่งที่มีชีวิต ด้วยกันทั้งหมด การทำบุญการให้ทาน ทำทั่วต้น ตั้งแต่ราก จนถึงต้น ก้านใบ ดอก ยอด ผลได้รับทั้งหมด ส่วนสมาธิเป็นต้นได้อย่างเดียว ลงไปตามภพตามภูมิของตนไม่ได้ ป้อมลองทำอย่างที่พระบอกไปก่อน เราก็จะได้ความรู้และข้อเปรียบเทียบ ว่าอารมณ์โทสะและความขุ่นมัวสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่ดีของเรา ดับหรือยัง ธรรมะที่อยู่ในตัวเราคือตำรา ไม่ต้องเปิดหนังสือเล่มไหน ถ้าเราเปิดจิตของตัวเรา เราก็จะเห็นธรรมะอยู่ในตัวเราทั้งหมดหลายเล่ม นั้นแหละคือตำราทุกเล่ม
ป้อมมีเพื่อนไปกับป้อมทุกวัน ลมที่มาปะทะตัวเราให้ความเย็น ให้รู้สึก ให้สัมผัส หนาว ร้อน สบายเย็น พัดไปมา จนเรามีความรู้สึก รู้ด้วยตัวเอง นั้นแหละคือธรรมะ ที่รู้ทุกวัน ป้อมลองตั้งนะโม และดูคำแปลที่บรรทัดล่างว่าอะไร เราต้องรู้ด้วยตัวของตัวเราเอง เวลาเหงาก็รู้แล้ว เวลาทุกข์ก็รู้แล้ว ถ้าตัวรู้ตื่นอยู่ตลอดเวลา ป้อมก็จะหลุดพ้นจากสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่ดีทั้งหมดในตัวเรา
ธรรมะที่จะเกิดแก่ตัวเราทุกอิริยาบถ คือความใสของจิตเรา โกรธไม่เกิด ชอบไม่เกิด ขุ่นมัวไม่เกิด จิตที่เป็นเวรไม่เกิด วาจาที่เป็นเวรไม่เกิด อารมณ์ที่ไม่ดีไม่เกิด ความคิดที่ไม่ดีไม่เกิด เกิดแต่ความว่างของจิตเราทุกช่อง เราทำความใสในจิตเราแล้ว แล้วธรรมะก็จะเกิดในจิตของตัวเรา เห็นอะไรก็หยิบมาเป็นธรรมะได้ โดยไม่ต้องเปิดตำราแค่ตาดู หูฟังก็เก็บเอามาเป็นธรรมะเช่นกัน แม้นแต่เสียงบ่น เสียงว่าก็เป็นธรรมะมองให้รู้ถึงอารมณ์ต่าง ๆ ของแต่ละคน แม้นแต่ความชอบของรสชาติ ไม่มีความชอบหรือไม่ชอบ มีแต่ความว่างทุกอย่าง เราอย่าเอาใจของเราไปติดอยู่กับความสุข หรือความทุกข์ เพราะว่าใจของเราติดกะกายสังขาร จงเอาจิตของเราทำให้ว่างเหนือความสุขและเหนือความทุกข์ทั้งหลาย ก็จะเกิดปิติที่เราได้ทำ จนหลุดจากสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่ดีทั้งหลาย แต่ละวันมีสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมายในชีวิต แค่รู้ว่าเรามีลมหายใจเข้าออก แค่นี้ก็พอแล้ว
ใจติดยึดทุกอย่างเพราะติดกะกาย
จิตก็หลุดพ้นทุกอย่างเช่นกัน เพียงแต่ทำให้ถูกบุญ

ขอให้ถึงนิพพานด้วยทานบาระมี
สว่าง วาสสนิท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น