คำขออโหสิเวร ขออโหสิกรรมวาจาที่เป็นเวร
สิ่งต่างๆที่ไม่ดี ก่อนสวดมนต์
จุดเทียน ๒ เล่ม (ซ้าย ขวา) จุดธูป ๓ ดอก * ตั้งนะโม ๓ จบ*
พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา ข้าพเจ้า (เอ่ยชื่อ นามสกุลเดิม) ขออโหสิเวร ขออโหสิกรรมวาจาที่เป็นเวรทั้งหลาย สิ่งต่างๆที่ไม่ดีทั้งหลาย ที่รู้ก็ดี ไม่รู้ก็ดี ที่เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ข้าพเจ้าขออโหสิเวร ขออโหสิกรรม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
คำบูชาพระด้วย ดอกไม้ ธูป เทียน
จุดเทียน ๒ เล่ม (ซ้าย ขวา) จุดธูป ๓ ดอก * ตั้งนะโม ๓ จบ*
พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา ข้าพเจ้า (เอ่ยชื่อ นามสกุลเดิม) ขอบูชาด้วย ดอกไม้ ธูป เทียน ขอให้ถึงพระอรหันต์ทุกๆพระองค์ สาธุ สาธุ สาธุ
คำบูชาพระ อาราธนาพระ ขอการสวดมนต์
รักษากายสังขาร
จุดธูป ๓ ดอก * ตั้งนะโม ๓ จบ*
พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง ข้าพเจ้าขอบูชา ขออาราธนาทุกๆพระองค์ ข้าพเจ้าขอบุญก็ดี ขอบารมีก็ดีจากทุกๆพระองค์ ขอจงได้แก่ตัวข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอการสวดมนต์ ขอกุศลผลบุญนี้ขอจงได้แก่ บิดามารดา ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งอดีตชาติและปัจจุบันชาติ และที่เป็นมนุษย์ทั้งหลาย สรรพสัตว์ทั้งหลาย จิตวิญญาณทั้งหลาย ขอจงได้รับกุศลผลบุญ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปข้าพเจ้าขอรักษากายสังขารของข้าพเจ้าด้วยกุศลผลบุญนี้ พระพุทธังรักษา พระธัมมังรักษา พระสังฆังรักษา พระพุทธคุณ พระธัมมคุณ พระสังฆคุณ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ และผู้มีพระคุณทั้งหลาย สาธุ สาธุ สาธุ
อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)
คุณบิดา มารดา (กราบ)
คุณครูบาอาจารย์และผู้มีพระคุณทั้งหลาย (กราบ)
คำอธิษฐาน
ขอพรพระและอัญเชิญเทวดา
ข้าแต่พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้า ข้าพเจ้าขอน้อมอัญเชิญเทพยดาเจ้าทั้งหลาย โปรดได้เสด็จมาฟังการสวดมนต์ของข้าพเจ้า ขอให้มาอนุโมทนาและประสิทธิ์ประสาทพร ให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ
ข้าพเจ้าขอขมากรรม หากกรรมใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้ว ผิดพลาดประการใด ด้วยกาย วาจา และด้วยใจก็ดี ตั้งแต่อดีตชาติเป็นต้นมาจวบจนในวันนี้ ทั้งที่ตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ทั้งที่ข้าพเจ้าระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ทั้งที่ข้าพเจ้ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี และรู้เท่าถึงการณ์ก็ดี ขอทุกๆพระองค์จงโปรดเมตตาอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญฯ
ข้าพเจ้าขอถวายพระพร ขอทุกๆพระองค์จงทรงเกษมสำราญ จงทรงพระชนม์อายุยืนนาน จงทรงพระญาณบารมีสูงยิ่งๆขึ้นไปเทอญ
ขอพระองค์ท่านได้โปรดประทานพรให้ข้าพเจ้าพ้นจาก สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร บุคคลพาล ศัตรูหมู่มาร จงพ้นไปจากตัวของข้าพเจ้า และขอให้ข้าพเจ้าประสบพบแต่สิ่งที่ดีๆ คนดีๆ สิ่งที่เป็นมงคลขอให้เข้ามาในชีวิต ได้ตาทิตย์ หูทิพย์ และเจโตปริยะญาณ พร้อมทั้งเกิดดวงตาเห็นธรรมได้สำเร็จมรรคผล นิพพานเทอญ.
สาธุ สาธุ สาธุ กราบ 3 ครั้ง
คำนมัสการพระพุทธเจ้า
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
(ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง)
คำขอขมาพระรัตนตรัย
อุกาสะ อัจจะโย โน ภันเต อัชชะขะมามิ ยะถาพาเล ยะถามุฬเห ยะถาอะกุสะเล เย มะยัง กะรัมหา เอวัง ภันเต มะยัง อัจจะโย โน ปะฏิคคัณหะถะ อายะติง สังวะเรยยามิ เถเรปะมาเทนะ ทะวารัตตะเยนะกะตัง สัพพัง อะปะราทังขะมามิภันเต
คำพรรณนาพระบรมธาตุ
อะหัง วันทามิ ทูระโต
อะหัง วันทามิ ธาตุโย
อะหัง วันทามิ สัพพะโสฯ
สรณคมน์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
คำนมัสการ
พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ
พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทธโธ วิชาจระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะ วิทู
อะนุตตะโร ปูริสะทัมมะสาระถิ สัตถา
เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวา ติ (กราบ) (๕๖)
ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก
อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ (กราบ) (๓๘)
สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คิจฉามิ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลี กะระณีโย
อนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (กราบ) (๑๔)
พุทธชัยมงคลคาถา
(๑) พาหุง สะหัส สะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ.
(๒) มาราติเร กะมะภิยุช ฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ.
(๓) นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวักคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ.
(๔) อุขิตตะขัคคะ มะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถัง คุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ.
(๕) กัตตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ.
(๖) สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ.
(๗) นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิธธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ.
(๘) ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรหมมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ.
(๙) เอตาปิ พุทธะชะยะมังคละอัฏฐะคาถาโย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ.
ชะยะปะริตตัง
มะหากะรุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณิณัง
ปูเรตตะวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลังฯ
ชะยันโต โพธิยา มูเล สักกะยานังนันทิวัฑฒะโน
เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล
อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร
อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติ
สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง
สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐังพรหมจาริสุ
ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง
ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธีเต ปะทักขิณา
ปะทักขิณานิ กัตตะวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ.
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
พระคาถาเชิญชุมนุมเทวดา
สะรัชชัง สะเสนัง สะพันธุง นะรินทัง
ปะริตตานุภาโว สะทา รักขะตูติ ผะริตวานะ
เมตตัง สะเมตตา ภะทันตา อะวิกขิตตะจิตตา
ปะริตตัง ภะณันตุ สัคเค กาเม จะ รูเป
คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน, ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต, ภุมมา จายันตุ
เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา, ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ.
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา,
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา,
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา,
ธัมมะจักกัปปะวัตตะนะสุตตัง
เอวัมเม สุตังฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา พาราณะสิยัง วิหะระติ อิสิปะตะเน มิคะทาเยฯ ตัตระ โข ภะคะวา ปัญจะวัคคิเย ภิกขู อามันเตสิฯ
ทะเวเม ภิกขะเว อันตา ปัพพะชิเตนะ นะ เสวิตัพพา โย จายัง กาเมสุ กามะสุขัลลิกานุโยโค หีโน คัมโม โปถุชชะนิโก อะนะริโย อะนัตถะสัญหิโต โย จายัง อัตตะกิละมะถานุโยโค ทุกโข อะนะริโย อะนัตถะสัญหิโตฯ
เอเต เต ภิกขะเว อุโภ อันเต อะนุปะคัมมะ มัชฌิมา ปะฏิปะทา ตะถาคะเตนะ อะภิสัมพุทธา จักขุกะระณี ญาณะกะระณี อุปะสะมายะ อะภิญญายะ สัมโพธายะ นิพพานายะ สังวัตตะติฯ
กะตะมา จะ สา ภิกขะเว มัชฌิมา ปะฏิปะทา ตะถาคะเตนะ อะภิสัมพุทธา จักขุกะระณี ญาณะกะระณี อุปะสะมายะ อะภิญญายะ สัมโพธายะ นิพพานายะ สังวัตตะติฯ
อะยะเมวะ อะริโย อัฏฐังคิโก มัคโคฯ เสยยะถีทังฯ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปโป สัมมาวาจา สัมมากัมมันโต สัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาสะติ สัมมาสะมาธิฯ
อะยัง โข สา ภิกขะเว มัชฌิมา ปะฏิปะทา ตะถาคะเตนะ อะภิสัมพุทธา จักขุกะระณี ญาณะกะระณี อุปะสะมายะ อะภิญญายะ สัมโพธายะ นิพพานายะ สังวัตตะติฯ
อิทัง โข ปะนะ ภิกขะเว ทุกขัง อะริยะสัจจังฯ ชาติปิ ทุกขา ชะราปิ ทุกขา มะระณัมปิ ทุกขัง โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสาปิ ทุกขา อัปปิเยหิ สัมปะโยโค ทุกโข ปิเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข ยัมปิจฉัง นะ ละภะติ ตัมปิ ทุกขัง สังขิตเตนะ ปัญจุปาทานักขันธา ทุกขาฯ
อิทัง โข ปะนะ ภิกขะเว ทุกขะสะมุทะโย อะริยะสัจจังฯ ยายัง ตัณหา โปโนพภะวิกา นันทิราคะสะหะคะตา ตัตระ ตัตราภินันทินีฯ เสยยะถีทังฯ กามะตัณหา ภะวะตัณหา วิภะวะตัณหาฯ
อิทัง โข ปะนะ ภิกขะเว ทุกขะนิโรโธ อะริยะสัจจังฯ โย ตัสสาเยวะ ตัณหายะ อะเสสะวิราคะนิโรโธ จาโค ปะฏินิสสัคโค มุตติอะนาละโยฯ
อิทัง โข ปะนะ ภิกขะเว ทุกขะนิโรธะคามินี ปะฏิปะทา อะริยะสัจจังฯ
อะยะเมวะ อะริโย อัฏฐังคิโก มัคโคฯ เสยยะถีทังฯ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปโป สัมมาวาจา สัมมากัมมันโต สัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาสะติ สัมมาสะมาธิฯ
อิทัง ทุกขัง อะริยะสัจจันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิฯ
ตัง โข ปะนิทัง ทุกขัง อะริยะสัจจัง ปะริญเญยยันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ
อาโลโก อุทะปาทิฯ
ตัง โข ปะนิทัง ทุกขัง อะริยะสัจจัง ปะริญญาตันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิฯ
อิทัง ทุกขะสะมุทะโย อะริยะสัจจันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิฯ
ตัง โข ปะนิทัง ทุกขะสะมุทะโย อะริยะสัจจัง ปะหาตัพพันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิฯ
ตัง โข ปะนิทัง ทุกขะสะมุทะโย อะริยะสัจจัง ปะหีนันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิฯ
อิทัง ทุกขะนิโรโธ อะริยะสัจจันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิฯ
ตัง โข ปะนิทัง ทุกขะนิโรโธ อะริยะสัจจัง สัจฉิกาตัพพันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิฯ
ตัง โข ปะนิทัง ทุกขะนิโรโธ อะริยะสัจจัง สัจฉิกะตันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิฯ
อิทัง ทุกขะนิโรธะคามินี ปะฏิปะทา อะริยะสัจจันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก ทะปาทิฯ
ตัง โข ปะนิทัง ทุกขะนิโรธะคามินี ปะฏิปะทา อะริยะสัจจัง ภาเวตัพพันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิฯ
ตัง โข ปะนิทัง ทุกขะนิโรธะคามินี ปะฏิปะทา อะริยะสัจจัง ภาวิตันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิฯ
ยาวะกีวัญจะ เม ภิกขะเว อิเมสุ จะตูสุ อะริยะสัจเจสุ เอวันติปะริวัฏฏัง ทวาทะสาการัง ยะถาภูตัง ญาณะทัสสะนัง นะ สุวิสุทธัง อะโหสิฯ
เนวะ ตาวาหัง ภิกขะเว สะเทวะเก โลเก สะมาระเก สะพรัหมะเก สัสสะมะณะพราหมะณิยา ปะชายะ สะเทวะมะนุสสายะ อะนุตตะรัง สัมมาสัมโพธิง อะภิสัมพุทโธ ปัจจัญญาสิงฯ
ยะโต จะ โข เม ภิกขะเว อิเมสุ จะตูสุ อะริยะสัจเจสุ เอวันติปะริวัฏฏัง ทวาทะสาการัง ยะถาภูตัง ญาณะทัสสะนัง สุวิสุทธัง อะโหสิฯ
อะถาหัง ภิกขะเว สะเทวะเก โลเก สะมาระเก สะพรัหมะเก สัสสะมะณะพราหมะณิยา ปะชายะ สะเทวะมะ นุสสายะ อะนุตตะรัง สัมมาสัมโพธิง อะภิสัมพุทโธ ปัจจัญญาสิงฯ
ญาณัญจะ ปะนะ เม ทัสสะนัง อุทะปาทิ อะกุปปา เม วิมุตติ อะยะมันติมา ชาติ นัตถิทานิ ปุนัพภะโวติฯ
อิทะมะโวจะ ภะคะวาฯ อัตตะมะนา ปัญจะวัคคิยา ภิกขู ภะคะวะโต ภาสิตัง อะภินันทุงฯ อิมัสมิญจะ ปะนะ เวยยากะระณัสมิง ภัญญะมาเน อายัสมะโต โกณฑัญญัสสะ วิระชัง วีตะมะลัง ธัมมะจักขุง อุทะปาทิ ยังกิญจิ สะมุทะ ยะธัมมัง สัพพันตัง นิโรธะธัมมันติฯ
ปะวัตติเต จะ ภะคะวะตา ธัมมะจักเก ภุมมา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง เอตัมภะคะวะตา พาราณะสิยัง อิสิปะตะเน มิคะทาเย อะนุตตะรัง ธัมมะจักกัง ปะวัตติตัง อัปปะฏิวัตติยัง สะมะเณนะ วา พราหมะเณนะ วา เทเวนะ วา มาเรนะ วา พรัหมุนา วา เกนะจิ วา โลกัสมินติฯ
ภุมมานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
จาตุมมะหาราชิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
จาตุมมะหาราชิกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
ตาวะติงสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
ตาวะติงสานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
ยามา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
ยามานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
ตุสิตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
ตุสิตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
นิมมานะระตี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
นิมมานะระตีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา
ปะระนิมมิตะวะสะวัตตี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ ปะระนิมมิตะวะสะวัตตีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา
พรัหมะกายิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
พรัหมะกายิกานัง เทวานัง สัททังสุตวา
พรัหมะปาริสัชชา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
พรัหมะปาริสัชชานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
พรัหมะปะโรหิตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
พรัหมะปะ โรหิตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
มะหาพรัหมา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
มะหาพรัหมานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
ปะริตตาภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
ปะริตตาภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
อัปปะมาณาภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
อัปปะมาณาภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
อาภัสสะรา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
อาภัสสะรานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
ปะริตตะสุภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
ปะริตตะสุภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
อัปปะมาณะสุภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
อัปปะมาณะสุภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
สุภะกิณหะกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
สุภะกิณหะกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
เวหัปผะลา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
เวหัปผะลานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
อะวิหา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
อะวิหานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
อสัญญาสัตตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
อสัญญาสัตตานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
อะตัปปา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
อะตัปปานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
สุทัสสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
สุทัสสานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
สุทัสสี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง
สุทัสสีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา
อะกะนิฏฐะกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงฯ
เอตัมภะคะวะตา พาราณะสิยัง อิสิปะตะเน มิคะทาเย อะนุตตะรัง ธัมมะจักกัง ปะวัตติตัง อัปปะฏิวัตติยัง สะมะเณนะ วา พราหมะเณนะ วา เทเวนะ วา มาเรนะ วา พรัหมุนา วา เกนะจิ วา โลกัสมินติฯ
อิติหะ เตนะ ขะเณนะ เตนะ มุหุตเตนะ ยาวะ พรัหมะโลกา สัทโท อัพภุคคัจฉิฯ อะยัญจะ ทะสะสะหัสสี โลกะธาตุ สังกัมปิ สัมปะกัมปิ สัมปะเวธิฯ อัปปะมาโณ จะ โอฬาโร โอภาโส โลเก ปาตุระโหสิ อะติกกัมเมวะ เทวานังเทวานุภาวังฯ
อะถะโข ภะคะวา อุทานัง อุทาเนสิ อัญญาสิ วะตะ โภ โกณฑัญโญ อัญญาสิ วะตะ โภ โกณฑัญโญติฯ
อิติหิทัง อายัสมะโต โกณฑัญญัสสะ อัญญาโกณฑัญโญเตววะ นามัง อะโหสิติฯ
ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก
ตั้งนะโม ๓ จบ
๑. อิติปิโสภะคะวา อะระหังวัจจะโส ภะคะวาฯ อิติปิโสภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ วัจจะโสภะคะวาฯ อิติปิโสภะคะวา วิชชาจะระณะสัมปันโน วัจจะโสภะคะวาฯ อิติปิโสภะคะวา สุคะโต วัจจะโสภะคะวาฯ อิติปิโสภะคะวา โลกะวิทู วัจจะโสภะคะวา
๒. อะระหันตัง สะระณังคัจฉามิ อะระหันตัง สิระสานะมามิฯ สัมมาสัมพุทธัง สะระณังคัจฉามิ สัมมาสัมพุทธัง สิระสานะมามิฯ วิชชาจะระณะปันนัง สะระณังคัจฉามิ วิชชาจะระณะสัมปันนัง สิระสานะมามิฯ สุคะตัง
สะระณังคัจฉามิ สุคะตัง สิระสานะมามิฯ โลกะวิทัง สะระณังคัจฉามิ โลกะวิทัง สิระสานะมามิฯ
๓. อิติปิโสภะคะวา อะนุตตะโร วัจจะโสภะคะวาฯ อิติปิโสภะคะวา ปุริสะธัมมะสาระถิ วัจจะโสภะคะวาฯ อิติปิโสภะคะวา สัตถาเทวะมะนุสสานัง วัจจะโสภะคะวาฯ อิติปิโสภะวาพุทโธ วัจจะโสภะคะวาฯ
๔. อะนุตตะรังสะระณังคัจฉามิ อะนุตตะรังสิระสานะมามิฯ ปุริสะทัมมะสาระถิ สาระณังคัจฉามิ ปุริสะทัมมะสาระถิ สิระสานะมามิฯ สัตถาเทวะมะนุสสานัง สะระณังคัจฉามิ สัตถาเทวะมะนุสสานัง สิระสานะมามิฯ พุทธังสะระณังคัจฉามิ พุทธังสิระสานะมามิ อิติปิโสภะคะวาฯ
๕. อิติปิโสภะคะวารูปะขันโธ อะนิจจะลักขะณาปาระมี จะสัมปันโน อิติปิโสภะคะวาฯ อิติปิโสภะคะวา เวทะนาขันโธ อะนิจจะลักขะณา ปาระมีจะสัมปันโน อิติปิโสภะคะวาฯ อิติปิโสภะคะวา สัญญาขันโธ อะนิจจะลักขะณาปาระมี จะสัมปันโน อิติปิโสภะคะวาฯ อิติปิโสภะคะวา สังขาระขันโธ อะนิจจะลักขะณา ปาระมี จะสัมปันโน อิติปิโสภะคะวาฯ อิติปิโสภะคะวา วิญญาณะขันโธ อะนิจจะลักขะณา ปาระมี จะสัมปันโน อิติปิโสภะคะวาฯ
๖. อิติปิโสภะคะวา ปะฐะวีจักกะวาฬะจาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา ธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิโสภะคะวา อาโปจักกะวาฬะจาตุมะหาราชิกาตาวะติงสา ธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิโสภะคะวา เตโชจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกาตาวะติงสา ธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิโสภะคะวา วาโยจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา ธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิโสภะคะวา อากาสะจักกะวาฬะจาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา ธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ
๗. อิติปิโสภะคะวา ยามาธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิโสภะคะวา ตุสิตาธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิโสภะคะวา นิมมานะระติ ธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิโสภะคะวา กามาวะจะระธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิโสภะคะวา รูปาวะจะระ ธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ
๘. อิติปิโสภะคะวา ปะฐะมะฌานะธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิโสภะคะวา ทุติยะฌานะ ธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิโสภะคะวา ตะติยะฌานะ ธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา จะตุตถะฌานะธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิโสภะคะวา ปัญจะมะฌานะ ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโนฯ
๙. อิติปิโสภะคะวา อากาสานัญจายะตะนะ เนวะสัญญานาสัญญายะตะนะ อะรูปาวะจะระ ธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิโส ภะคะวา วิญญาณัญจายะตะนะ เนวะสัญญานาสัญญายะตะนะ อะรูปาวะจะระ ธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิโสภะคะวา อากิญสัญญายะตะนะ เนวะสัญญานา สัญญายะตะนะอะรูปาวะจะระ ธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ
๑๐. อิติปิโสภะคะวา โสตาปัตติมัคคะ ธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิโสภะคะวา สะกิทาคาปัตติมัคคะ ธาตุสัมมาทิยายะสัมปันโนฯ อิติปิโสภะคะวา อะนาคาปัตติมัคคะ ธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิโสภะคะวา อะระหัตตะปัตติมัคคะ ธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ
๑๑. อิติปิโสภะคะวา โสตาอะระหัตตะปฏิผะละ ธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิโสภะคะวา สักกิทาคา อะระหัตตะปฏิผะละ ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโนฯ อิติปิโสภะคะวา อะนาคามิ อะระหัตตะปฏิผะละ ธาตุสัมมาทิยานะสัมปันโนฯ
๑๒. กุสะลาธัมมา อิติปิโสภะคะวา อะอายาวะชาวัง พุทธังสะระณังคัจฉามิฯ ชมพูทิปัญจะอิสสะโร กุสะลาธัมมา นะโมพุทธายะ นะโมธัมมายะ นะโมสังฆายะฯ ปัญจะพุทธานะมามิหัง อาปามะจุปะทิมะสังอังขุสังวิธาปุกะยะปะฯ อุปะสะชะสุ เสปาสายะ โสโสสะสะ อะอะอะอะนิเตชะสุเนมะฯ ภูจะนาวิเวอะสัง วิสุโลปุสะภุพะ อิสะวาสุสุสะวาอิ กุสะลา ธัมมาจิตติ วิอัตถิฯ
๑๓. อิติปิโสภะคะวา อะระหังอะอายาวะชาวัง พุทธังสะระณังคัจฉามิ สาโพธิปัญจะอิสะโรธัมมาฯ
๑๔. กุสะลาธัมมา นันทะวิวังโก อิติสัมมาสัมพุทโธ สุคะลาโนยาวะชาวัง พุทธัง สะระณังคัจฉามิฯ จาตุมะหาราชิกาอิสสะโร กุสะลาธัมมา อิติวิชชาจะระณะสัมปันโนฯ อุอุยาวะ ชาวัง พุทธัง สะระณังคัจฉามิฯ ตาวะติงสา อิสสะโร กุสะลาธัมมาฯ นันทะปัญจะ สุคะโตโลกะวิทู มะหาเอโอ ยาวะชาวัง พุทธังสะระณังคัจฉามิฯ ยามาอิสสะโร กุสะลาธัมมา พรหมมาสัททะ ปัญจะสัตตะ สัตตาปาระมีอะนุตตะโรฯ ยะมะกะขะ ยาวะชาวัง พุทธัง สะระณังคัจฉามิฯ
๑๕. ตุสิตาอิสสะโร กุสะลาธัมมา ปุยะปะกะปุริสะธัมมะสาระถิ ยาวะชาวัง พุทธัง สะระณังคัจฉามิฯ
๑๖. นิมมานะระติอิสสะโร กุสะลาธัมมา เหตุโปวะสัตถาเทวะมะนุสสานังฯ ตะถะยาวะชาวัง พุทธังสะระณังคัจฉามิฯ
๑๗. ปะระนิมิตตะอิสสะโร กุสะลาธัมมา สังขาระขันโธ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธฯ พุทธะปะผะยาวะชาวัง พุทธัง สะระณังคัจฉามิฯ
๑๘. พรหมมาอิสสะโร กุสะลาธัมมานัจจิ ปัจจะยา วินะปัญจะ ภะคะวะตา ยาวะนิพพานัง สะระณังคัจฉามิฯ นะโมพุทธัสสะ นะโมธัมมัสสะ นะโมสังฆัสสะฯ พุทธิลาโรกะลากะระกะนา เอเตนะสัจเจนะ สุวัตถิโหนตุ หุลู หุลู หุลู สะวาหายะฯ
๑๙. นะโมพุทธัสสะ นะโมธัมมัสสะ นะโมสังฆัสสะฯ วิตติ วิตติ วิตติ มิตติ มิตติ จิตติ จิตติ วัตติ วัตติฯ มะยะสุ สุวัตถิโหนตุ หุลู หุลู หุลู สะวาหายะฯ
๒๐. อินทะสาวัง มะหาอินทะสาวัง พรหมมะสาวัง มะหาพรหมมะสาวังฯ จักกะวัตติสาวัง มะหาจักกะวัตติสาวัง เทวาสาวัง มะหาเทวาสาวังฯ อิสิสาวัง มะหาอิสิสาวัง มุนีสาวัง มะหามุนีสาวังฯ สัปปุริสาวัง มะหาสัปปุริสาวัง พุทธะสาวัง ปัจเจกะพุทธะสาวังฯ อะระหัตตะสาวัง สัพพะ สิทธิ วิชาธะรานังสาวังฯ สัพพะโลกา อิริยานังสาวัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิโหนตุฯ
๒๑. สาวังคุณัง วะชะพะลังเตชัง วิริยังสิทธิกัมมังฯ นิพพานัง โมกขังคุย หะกังทานังสีลังฯ ปัญญานิกขัง ปุญญัง ภาคะยังตัปปัง สุขังสิริรูปังฯ จะตุวิสะติเสนัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิโหนตุ หุลู หุลู หุลู สะวาหายะฯ
๒๒. นะโม พุทธัสสะ ทุกขังอะนิจจัง อะนัตตาฯ รูปะขันโธ เวทนาขันโธ สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ นะโม อิติปิโส ภะคะวาฯ
๒๓. นะโม พุทธัสสะ ทุกขังอะนิจจัง อะนัตตาฯ รูปะขันโธ เวทนาขันโธ สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ นะโม สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโมฯ
๒๔. นะโม ธัมมัสสะ ทุกขังอะนิจจัง อะนัตตาฯ รูปะขันโธ เวทนาขันโธ สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ นะโม สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโมฯ
๒๕. นะโม ธัมมัสสะ ทุกขังอะนิจจัง อะนัตตาฯ รูปะขันโธ เวทนาขันโธ สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ นะโม สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะ สังโฆฯ
๒๖. นะโม สังฆัสสะ ทุกขังอะนิจจัง อะนัตตาฯ รูปะขันโธ เวทนาขันโธ สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ นะโม สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ วาหะปะริตตังฯ
๒๗. นะโม พุทธายะ มะอะอุทุกขังอะนิจจัง อะนัตตาฯ ยาวะตัสสะหาโย โมนะ อุอะมะทุกขัง อะนิจจังอะนัตตาฯ อุอะมะอาวันทา นะโมพุทธายะ นะอะกะตินิสะระนะฯ อาระปะขุธังมะอะอุ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตาฯ
วิปัสสิต
สัพพะทุกขา สัพพะภะยา สัพพะโรคา วินาสสันตุ
กรวดน้ำ
อิมินา ปุญญะกัมเมนะ ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้า.....(ชื่อ-สกุล)... ได้สร้างและสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏกนี้ ขอกุศลผลบุญนี้ ขอจงได้แก่ คุณบิดามารดา ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ผู้มีพระคุณพระมหากษัตริย์ ธรรมชาติทั้งหลาย โรคภัยไข้เจ็บที่อยู่ในกายสังขาร จิตวิญญาณโรคที่อยู่ในกายสังขาร เจ้ากรรมนายเวร ทวยเทพทุกพระองค์ มหาเทพ มหาเทวี พระฤาษี ๑๐๘ พระองค์ และทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน สรรพสัตว์ทั้งหลาย จิตวิญญาณทั้งหลาย เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระเพลิง แม่พระพาย แม่พระโพสพ พระภูมิเจ้าที่ พระพิรุณ พระยายมราช นายนิริยบาล ทั้งท้าวจตุโลกบาล สิริพุทธอำมาตย์ชั้นจาตุมหาราชิกาเบื้องบน จนถึงที่สุดพรหมาเบื้องต่ำ ตั้งแต่อเวจีขึ้นมา จนถึงมนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาล อนันตจักรวาล คุณพระศรีรัตนตรัยและเทพยดาทั้งหลาย ตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยมยักษ์ คนธรรพ์ นาคา ท่านทั้งหลายที่ต้องทุกข์ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ได้สุข ขอให้ได้สุขยิ่งๆขึ้นไป ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าอุทิศให้ไปนี้ จงเป็นอุปนิสัย ปัจจัยให้ถึงพระนิพพานในปัจจุบัน และอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นเทอญฯ
พุทธังอนันตัง ธัมมังจักรวาลัง
สังฆังนิพพานัง ปัจจโยโหนตุ
คาถาพระพุทธเจ้าชนะมาร
(พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต)
ปัญจะมาเร ชิโนนาโถ ปัตโต สัมโพธิ มุตตะมัง จะตุสัจจัง ปะกาเสติ ธัมมะจักกัง ปะวัตตะยิ เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลังฯ (*ป้องกันอัตรายทั้งปวงฯ ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก)
พระคาถาชินปัญชร
ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พฺรหฺมรังษี
เพื่อให้เกิดอานุภาพยิ่งขึ้น ก่อนเจริญภาวนาชินบัญชร ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วระลึกถึง และบูชาเจ้าประคุณสมเด็จด้วยคำว่า
ปุตตะกาโมละเภปุตตัง ธะนะกาโมละเภธะนัง
อัตถิกาเยกายะญายะ เทวานังปิยะตังสุตตะวา.
อิติปิโสภะคะวา ยมราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ
มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ
๑. ชะยาสะนากะตา พุทธา เชตวา มารัง สะวาหะนัง จะ ตุสัจจาสะภัง ระสัง เย ปิวิงสุ นะราสะภา.
๒. ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะ เก เต มุนิสสะรา.
๓. สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร.
๔. หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะ ทักขิเณ
โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะ วามะเก.
๕. ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะ ราหุโล
กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก.
๖. เกสะโต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโย วะ ปะภัง กะโร
นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิปุงคะโว.
๗. กุมาระกัสสะโป เถโร มะเหสี จิตตะ วาทะโก โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง ปะติฏฐาสิ คุณากะโร.
๘. ปุณโณ อังคุลิมาโร จะ อุปาลี นันทะ สีวะลี เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา นะลาเต ติละกา มะมะ.
๙. เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา เอเตสีติ
มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา ชะลันตา
สีละเตเชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา.
๑๐. ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะ สุตตะกัง ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง.
๑๑. ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะ สุตตะกัง
อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา.
๑๒. ชินานาวะระสังยุตตา สัตตัปปาการะ ลังกะตา วาตะปิตตาทิสัญชาตา พาหิรัช ณัตตุปัททะวา.
๑๓. อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะ เตชะสา
วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร.
๑๔. ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ วิหะรันตัง มะหีตะเล
สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ เต มะหาปุริสาสะภา.
๑๕. อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข
ชินานุภาเวนะ ชิตุปัททะโว
ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ
สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย
สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ.
(ชินะปัญชะระคาถา นิฏฐิตา.)
หัวใจพระคาถาชินบัญชร
จากจารึกที่สถูปเจดีย์ สร้างถวายเจ้าเหนือหัวจุฬาลงกรณ์ จุลจอมเกล้าปัญจะมหาราชา (ร.๕)
เมื่อ รศ. ๘๙ มีทั้งหมด ๓๑ คำดังนี้
ชะ จะ ตะ สะ สี สัง หะ โก
ทะ กะ เก นิ กุ โส ปุ เถ
เส เอ ชะ ระ ธะ ขะ อา ชิ
วา อา วะ ชิ สะ อิ ตังฯ
พุทธมังคลคาถา
ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) สวดทุกวัน
สัมพุทโธ ทิปะทัง เสฏโฐ นิสินโน เจวะ มัชฌิเม โกณทัญโญ ปุพพะภาเค จะ อาคเณยเย จะ กัสสะโป สารีปุตโต จะ ทักขิเณ หะระติเย อุปาลิ จะ ปัจฉิเมปิ จะ อานันโท พายัพเพ จะ ควัมปะติ โมคคัลลาโน จะ อุตตะเร อีสาเนปิ จะ ราหุโล อิเม โข มังคะลา พุทธา สัพเพ อิธะ ปะติฏฐิตา วันทิตา เต จะ อัมเหหิ สักกาเรหิ จะ ปูชิตา เอเตสัง อานุภาเวนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุโน
อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง
นะมัสสะมาโน ระตะนัตตะยัง ยัง
ปุญญาภิสันทัง วิปุลัง อะลัตถัง
ตัสสานุภาเวนะ หะตันตะราโย
ไม่ยึด ไม่ทุกข์ ไม่สุข ละได้ย่อมสงบ
(พุทธมังคลคาถานี้ หรือเรียกว่า คำนมัสการบูชาพระอรหันต์แปดทิศล้วนแต่มีฤทธิ์ทุกองค์เป็นมหาเถระผู้ยิ่งใหญ่ในทางพระพุทธศาสนา เมื่อทำการสวดบูชาแล้ว ย่อมจะมีภาลผลเป็นมิ่งมงคลและปราศจากอันตราย ถ้าจะสวดแบบธรรมดาก็ได้โดยหัวหน้ากล่าวนำ หันทะ มะยัง พุทธะมังคละคาถาโยภะณามะ เส)
พระรัตนตรัย ๓ ชั้น
๑. โตเสนโต วะระธัมเมนะ โตสัฏฐาเน สิเว วะเร โตสัง อะกาสิ ชันตูนัง โตสะจิตตัง นะมามิหัง.
(ห้องพระพุทธคุณ) เมตตามหานิยมประเสริฐนัก
๒. โตเสนโต สัพพะสัตตานัง โตเสติ ธัมมะ เทสะนัง โตสะจิตตัง สะมิชณันตัง โตสิตันตัง นะ มามิหัง.
(ห้องพระธรรมคุณ)
๓. โตเสนโต เทวะมะนุสเส โตเสนโต ธัมมะ เทสะยิ โตเสติ ทุฏฐะจิตเตปิ โตเสนตันตัง นะมา มิหัง.
ภาวนาทุกคืนวัน ย่อมอยู่เย็นเป็นสุข แคล้วคลาด ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง สร้างเมตตามหานิยมดีนักแล
คาถาพระสมเด็จ
เมื่อจะเข้าณรงค์สงคราม หรือจะไปในที่ใดๆ ก็ดีให้เสกน้ำหอม หรือน้ำก็ได้ด้วยคาถานี้
เก โล นะ ทะ ตะ มัง นะ อะ อะ วะ หะ ยะ
กิ ปิ มะ อะ อะ อุ กะ ปิ เส ปุ โล เส เม
อะ วะ เข สิง สะ มุ อะ
เสก 108 คาบ แล้วทาตัว หรือกินหรืออาบ ท่านว่าคงกระพันชาตรี ถ้าทาน้ำหอมน้ำไม่ได้ ให้บริกรรมด้วยคาถานี้แล้วกลืนน้ำลายเข้าไป ท่านว่าคงกระพันเหมือนกันแลได้รอดตัวมามากแล้วอย่าสนเท่ห์เลย
พระคาถาพฺรหฺมรํงสี
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พฺรหฺมรํงสี
พระคาถาบูชา “นะโมโพธิสัตว์โต พฺรหฺมรํงสี”
ว่านะโม ๓ จบ
โอมศรีศรี พรหมรังสี นามะเตโช
มหาสัมมะโณ มหาปัญโญ มหาลาโภ
มหายะโส สัพพะสิทธิ ภะวันตุเต
นะโมโพธิ สัตโต พรหมรังสี
คาถาสืบสร้างทางสวรรค์ – นิพพาน
ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํงสี)
หมั่นทานศีลภาวนา และระลึกถึง
พุทธะ พุทธา พุทเธ พุทโธ พุทธัง อะระหัง พุทโธ
อิติปิโส ภะคะวา นะโมพุทธายะฯ
หมั่นภาวนา จะทำให้มีความสุข – อายุยืน และนิพพาน
คาถาบูชาพระสมเด็จ
ปุตตะกาโมละเภปุตตัง ธะนะกาโมละเภธะนัง
ธะนะโภคังภะวันตุเม อัตถิกาเยกายะญายะเทวานัง ปิยะตัง สุตตวา
ลาภผล โภคทรัพย์ดีนักแล
คาถาเมตตามหานิยม
นะ เมตตา, โม กรุณา, พุทธ ปราณี, ธา ยินดี, ยะ เอ็นดู สารพัดศัตรู วินาสสันตุ อิติปิโสภะคะวา เห็นหน้าวาจาเอ็นดูด้วย นะโม พุทธายะ
เมตตามหานิยมประเสริฐนัก
แผ่เมตตา
อิทัง ปุญญะผะลัง อานิสงส์อันใด ที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญไปแล้วนี้ ขอผลบุญนี้ จงแผ่ไปถึง เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินมาแล้วแต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายได้มาอนุโมทนา เมื่ออนุโมทนาแล้วขอให้อโหสิกรรมกันตั้งแต่บัดนี้ เวลานี้เป็นต้นไป
ขอแผ่บุญกุศลนี้ไปถึงเทพเจ้าทั้งหลายที่รักษาตัวข้าพเจ้าอยู่ก็ดี นอกจากนี้ก็ดี ทั่วสากลพิภพ จงมีความสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทพพรหมทั้งหลาย ภูตผีปีศาจทั้งหลาย ที่อยู่ในที่นี้ก็ดี อยู่บ้านของข้าพเจ้าก็ดี ขอให้ทุกท่านจงมีความสุข
และขอแผ่บุญกุศลนี้ ไปถึงบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ญาติพี่น้องมิตรสหายสรรพสัตว์ทั้งหลาย ของข้าพเจ้าทั้งหลาย ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี ขอให้ทุกท่านจงมีความสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระสยามเทวาธิราช ทุกท่าน ขอให้ทุกท่าน จงมีความสุข
ขอผลานิสงส์นี้ จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้อยู่ดีกินดี มีความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป และได้เข้าถึงซึ่ง พระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเทอญฯ
คาถามงกุฏพระพุทธเจ้า
อิติปิ โส วิสเสอิ, อิเสเส พุทธะนาเมอิ,
อิเมนา พุทธะตังโสอิ, อิโสตัง พุทธะปิติอิ ( ๓ จบ )
คำไหว้ปาระมี ๓๐ ทัศ
(แบบครูบาศรีวิชัย)
๐ ทานะปาระมี สัมปันโน, ทานะอุปะปาระมี
สัมปันโน, ทานะ ปะระมัตถะปาระมี สัมปันโน, เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเบกขา ปาระมี สัมปันโน,
อิติปิ โส ภะคะวา
๐ สีละปาระมี สัมปันโน, สีละอุปะปาระมี สัมปันโน, สีละปะระมัตถะปาระมี สัมปันโน, เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเบกขา ปาระมี สัมปันโน, อิติปิ โส ภะคะวา
๐ เนกขัมมะปาระมี สัมปันโน, เนกขัมมะ อุปะปาระมี สัมปันโน, เนกขัมมะปะระมัตถะปาระมี สัมปันโน, เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเบกขา ปาระมี สัมปันโน, อิติปิ โส ภะคะวา
๐ ปัญญาปาระมี สัมปันโน, ปัญญาอุปะปาระมี สัมปันโน, ปัญญาปะระมัตถะปาระมี สัมปันโน, เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเบกขา ปาระมี สัมปันโน, อิติปิ โส ภะคะวา
๐ วิริยะปาระมี สัมปันโน, วิริยะอุปะปาระมี สัมปันโน, วิริยะปะระมัตถะปาระมี สัมปันโน, เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเบกขา ปาระมี สัมปันโน, อิติปิ โส ภะคะวา
๐ ขันตีปาระมี สัมปันโน, ขันตีอุปะปาระมี สัมปันโน, ขันตีปะระมัตถะปาระมี สัมปันโน, เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเบกขา ปาระมี สัมปันโน, อิติปิ โส ภะคะวา
๐ สัจจะปาระมี สัมปันโน, สัจจะอุปะปาระมีสัมปันโน, สัจจะปะระมัตถะปาระมี สัมปันโน, เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเบกขา ปาระมี สัมปันโน, อิติปิ โส ภะคะวา
๐ อะธิฏฐานะปาระมี สัมปันโน, อะธิฏฐานะอุปะปาระมีสัมปันโน, อะธิฏฐานะปะระมัตถะปาระมี สัมปันโน, เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเบกขา ปาระมี สัมปันโน, อิติปิ โส ภะคะวา
๐ เมตตาปาระมี สัมปันโน, เมตตาอุปะปาระมี สัมปันโน, เมตตาปะระมัตถะปาระมี สัมปันโน, เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเบกขา ปาระมี สัมปันโน, อิติปิ โส ภะคะวา
๐ อุเบกขาปาระมี สัมปันโน, อุเบกขาอุปะปาระมี สัมปันโน, อุเบกขาปะระมัตถะปาระมี สัมปันโน, เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเบกขา ปาระมี สัมปันโน, อิติปิ โส ภะคะวา
๐ ทะสะปาระมี สัมปันโน, ทะสะอุปะปาระมี สัมปันโน, ทะสะปะระมัตถะปาระมี สัมปันโน, เมตตา ไมตรี
กะรุณา มุทิตา อุเบกขาปาระมี สัมปันโน, อิติปิ โส ภะคะวาฯ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ นะมามิหังฯ
หมายเหตุ: สำหรับคำไหว้ปาระมี ๓๐ ทัศนี้ เป็นแบบฉบับดังเดิมของ ครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งลานนาไทย
พระคาถาบารมี ๓๐ ทัศ
อิติปาระมิตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา
อิติโพธิมะนุปปัตโต อิติปิโสจะเตนะโมฯ
(พระคาถานี้เป็นพระคาถาอธิษฐานบารมีของพระพุทธเจ้าเมื่อเข้าผจญด้วยพระยามาราธิราช ขณะที่จะได้ตรัสรู้พระปรมาภิเศกสัมโพธิญาณ พระยามารก็พ่ายแพ้ไปสิ้น ถ้าจะเข้าประจัญด้วยฝูงผีปีศาจก็ดี ให้บริกรรมพระคาถานี้เสีย ๗ คาบ มันเห็นหน้าเราเข้าให้สะดุ้งกลัวอยู่มิได้ ต้องหนีหายหลบไป)
พระคาถาสวดบูชาพระสยามเทวาธิราช
ระตะนัตตะยัปปะภาวาภิยาจะนะคาถา
(พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ อุตตะมัง ธัมมะมัชฌะคา มะหาสังฆัง ปะโพเธสิ อิจเจตัง ระตะ นัตตะยัง พุทโธ ธัมโม สังโฆ จาติ นานาโหนตัมปิ วัตถุโต อัญญะมัญญาวิโยคาวะ เอกีภูตัมปะนัต ถะโต พุทโธ ธัมมัสสะ โพเธตา ธัมโม สังเฆนะ ธาริโต สังโฆ จะ สาวะโก พุทธัสสะ อิจเจกา พัทธะเมวิทัง วิสุทธัง อุตตะมัง เสฏฐัง โลกัสมิง ระตะนัตตะยัง สังวัตตะติ ปะสันนานัง อัตตะโน สุทธิกามินัง สัมมา ปะฏิปัชชันตานัง ปะระมายะ วิสุทธิยา วิสุทธิ สัพพัเกลเส(๑)หิ โหติ ทุกเขหิ นิพพุติ นิพพานํ ปะระมัง สุญญัง นิพพานัง ปะระมัง สุขัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ สุวัตถิ โหตุ สัพพะทา ระตะนัตตะยานุภาเวนะ ระตะนัตตะยะเตชะสา อุปัททะวันตะรายา จะ อุปะสัคคา จะ สัพพะโส มา กะทาจิ สัมผุสิงสุ รัฏฐัง สยามานะเมวิทัง อาโรคิยะสุขัญเจวะ ตะโต ทีฆายุตาปิ จะ ตัพพัตถูนัญจะ (๒)สัมปัตโย สุขัง สัพพัตถะ โสตถิ จะ ภะวันตุ สัมปะวัตตันตุ สยามานัง รัฏฐะปาลินัง เต จะ รัฏฐัญจะ รักขันตุ สยามะ รัฏฐิกะเทวะตา สยามานัง รัฏฐะปาลีหิ ธัมมามิเสหิ ปูชิตา สิทธะมัตถุ สิทธะมัตถุ สิทธะมัตถุ อิทัง ผะลัง เอตัสมิง ระตะนัตตะยัสมิง สัมปะสา ทะนะเจตะโส. (* คาถาสวดบูชาพระสยามเทวาธิราชจะเป็นสิริมงคลแก่ผู้บูชาทุกวัน)
คาถาอาฏานาฏิยะปะริตตัง (ย่อ)
วิปัสสิสสะ นะมัตถุ จักขุมันตัสสะ สิรีมะโต
สิขิสสะปิ นะมัตถุ สัพพะภูตานุกัมปิโน
เวสสะภุสสะ นะมัตถุ มะหาตะกัสสะ ตะปัสสิโนนะมัตถุ
กะกุสันธัสสะ มาระเสนับปะมัททิโน
โกนาคะนะนัสสะ นะมัตถุ พราหมะณัสสะ วุสิมะโต
กัสสะปัสสะ นะมัตถุ วิบปะมุตตัสสะ สัพพะทินัง
ศีรสัสสะ นะมัตถุ สักยะปุตตัสสะ สิรีมะโต
โยอิมัง ธัมมะมะเทเสสิ สัพพะทุกขาปะนูทะนัง
เอ จาปิ นิพพุตา โลเก ยะถาภูตัง วิปัสสิสุง
เต ชะนา อะปิสุณา มะหันตา วีตะสาระทา
หิตัง เทวะมะนุสสานัง ยัง นะมัสสสันติ โคตะมัง
วิชชาจะระณะสัมปันนัง มะหันตัง วีตะสาระทังฯ
(วิชชาจะระณะสัมปันนัง พุทธัง วันทามะ โคตะมันติ)
(ผู้ใดสร้างไว้สักการบูชา จะเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ และมีความสุขสิริสวัสดิ์เจริญต่อไปทั้งปัจจุบันกาลอนาคต ท่องคาถาอาฏานาฏิยะปะริตตัง(ย่อ)เป็นประจำ ท่านจะชนะ ศัตรูมารร้ายทั้งปวงประดุจดังผู้ชนะสิบทิศด้วยอำนาจของพระคาถานี้)
พระคาถายันทุน
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โยจามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โยจามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง ธัมมานุภาเวนะ วินาสะเมนตุฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โยจามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุฯ
*พระคาถายันทุนบทนี้ ใช้สำหรับสวดป้องกันอันตรายต่างๆ แม้ว่าเกิดนิมิตร์ฝันไม่ดี เกิดอาเภทสังหรณ์ใจไปในทางที่ไม่ดี ให้สวดพระคาถานี้จะกลับให้เกิดเป็นความดีขึ้น แม้จะมีเคราะห์ร้ายต่างๆเกิดขึ้น ให้ทำน้ำมนต์อาบเสียด้วยพระคาถานี้ บำบัดอันตรายให้หายสิ้นไปได้ หมั่นจำเริญภาวนาไว้เกิดสิริมงคลลาภยศดีนักแลฯ
พระคาถาข่ายเพ็ชรพระพุทธเจ้า
ชาโล มหาชาโล ชาลัง มหาชาลัง ชาลิเต มหาชาลิเต ชาลิตัง มหาชาลิตัง มุตเต มุตเต สัมปัตเต มุตตัง มุตตัง สัมปัตตัง สุตัง คะมิติ สุตัง คะมิติ มัคคะยีติ ทิฏฐิลา ทัณฑะลา มัณฑะลา โรคิลา กะระลา ทุพพะลา ริตติ ริตติ กิตติ กิตติ มิตติ มิตติ จิตติ จิตติ มุตติ มุตติ จุตติ จุตติ ธาระณี ธาระณีติ อิทัง ธาระณะ ปะริตตังฯ
*พระคาถาธรณีปริตรนี้ เป็นคาถาสำคัญยิ่ง ของท่านโบราณาจาริย์แต่เก่าแก่ เป็นคาถาที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระราชทานให้พระอานนท์มหาเถระ เมื่อผู้ใดได้บริกรรมพระคาถานี้ จะพ้นจากความทุกข์ยากทั้งมวลได้บรรลุความสุขในชาตินี้และชาติหน้า หมู่เทพยดามาประชุมกันรักษาป้องกันสรรพภัยอันตรายทุกเมื่อ เมื่อเกิดเจ็บไข้ขึ้นใช้เสกน้ำมนต์รดอาบหายแล แม้เจ็บจมูกเจ็บตา เสกหมากพ่นก็ได้ เสกน้ำก็ได้ เสกหัวหอมพ่นก็ได้ แก้สารพัดตาลทรางทั้งปวง พระคาถานี้บริกรรมในสถานใด ภูติผีปีศาจที่ดุร้ายมิอาจจะเข้าไปกล้ำกรายได้ (เป็นพระคาถาที่ใช้ในคัมภีร์พิชัยสงครามด้วย)
พระคาถาอิติปิโส ๘ ทิศ
คาถายันต์เกราะเพ็ชร
สมเด็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ ตั้งนะโม ๓ จบ
๑. อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา บทนี้ชื่อกระทู้ ๗ แบกประจำอยู่ทิศบูรพา (ทิศตะวันออก)
๒. ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง บทนี้ชื่อว่าฝนแสนห่า ประจำอยู่ทิศอาคเณย์ (ทิศตะวันออกเฉียงใต้)
๓. ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท บทนี้ชื่อนารายณ์เกลื่อนสมุทร ประจำอยู่ทิศทักษิณ (ทิศใต้)
๔. โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ บทนี้ชื่ออนารายณ์ถอดจักร์ ประจำอยู่ทิศหรดี (ทิศตะวันตกเฉียงใต้)
๕. ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ บทนี้ชื่อนารายณ์ขว้างจักรตรึงไตรภพ ประจำอยู่ทิศประจิม (ทิศตะวันตก)
๖. คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ บทนี้ชื่อนารายณ์พลิกแผ่นดิน ประจำอยู่ทิศพายัพ (ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ)
๗. วา โธ โน อะ มะ มะ วา บทนี้ชื่อตวาดฟ้าป่าหิมพานต์ ประจำอยู่ทิศอุดร (ทิศเหนือ)
๘. อะ วิช สุ นุต สา นุ ติ บทนี้ชื่อนารายณ์แปลงรูป ประจำอยู่ทิศอีสาน (ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)
พระคาถามงคลจักรวาฬทั้งแปดทิศ
อิมัส มิงมงคลจักรวาฬทั้งแปดทิศ ประสิทธิจงมาเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น มาป้องกันห้อมล้อมรอบครอบทั่ว อะนัตตา, ราชะ เสมานา เขตเต, สะมันตา สะตะโยชะนะสะตะสะหัสสานิ พุทธะชาละปะริกเขตเต รักขันตุ สุรักขันตุฯ
อิมัส มิงมงคลจักรวาฬทั้งแปดทิศ ประสิทธิจงมาเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น มาป้องกันห้อมล้อมรอบครอบทั่ว อะนัตตา, ราชะ เสมานา เขตเต, สะมันตา สะตะโยชะนะสะตะสะหัสสานิ ธัมมะชาละปะริกเขตเต รักขันตุ สุรักขันตุฯ
อิมัส มิงมงคลจักรวาฬทั้งแปดทิศ ประสิทธิจงมาเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น มาป้องกันห้อมล้อมรอบครอบทั่ว อนัตตา, ราชะ เสมานา เขตเต, สะมันตา สะตะโยชะนะสะตะสะหัสสานิ ปัจเจกะพุทธะชาละปะริกเขตเต รักขันตุ สุรักขันตุฯ
อิมัส มิงมงคลจักรวาฬทั้งแปดทิศ ประสิทธิจงมาเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น มาป้องกันห้อมล้อมรอบครอบทั่ว อะนัตตา, ราชะ เสมานา เขตเต, สะมันตา สะตะโยชะนะสะตะสะหัสสานิ สังฆะชาละปะริกเขตเต รักขันตุ สุ รักขันตุฯ
พระคาถาหลวงพ่อโสธร
วัดโสธรวรารามวรวิหาร
(แปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา)
คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์
ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วว่าคาถานี้ทุกวันจะปลอดภัยร่มเย็นเป็นสุขตลอดชีวิต (อย่าทำทุจริตใดๆ เลย)
“นะ ทรงฟ้า โม ทรงดิน พุทธ ทรงสินธุ์ ธา ทรงสมุทร ยะ ทรงอากาศ พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูภัยพาลวินาศสันติ”
“นะกาโร กุกกุสันโธ สิโรมัชเฌ โมกาโร โกนาคะมะโน นานาจิตเต พุทธกาโร กัสสะโป พุทโธ จะ ทะเวเนเต ธา กาโร ศรีศากกะยะมุนี โคตะโม ยะกันเน ยะกาโร อะริยะ เมตตรัยโย ชิวหาทีเต ปัญจะพุทธา นะมามิหัง”
“พุทธะบูชา มะหาเตชะวันโต ธัมมะบูชา มะหาปัญโญ สังฆะบูชา มะหาโภคะวะโห อะระหังพุทโธ อิติปิโสภะคะวา นะมามิหังฯ”
(บูชาทุกวันคืนเกิดสิริมงคลเจริญด้วยลาภยศ สรรเสริญ เมตตา มหานิยม ซื้อง่ายขายคล่องดี นำมาแห่งโภคทรัพย์เงินทองมิขาดสาย และป้องกันอุปัทวันตรายทั้งปวงฯ)
พระคาถาหลวงพ่อบ้านแหลม
วัดเพชรสมุทรวรวิหาร จังหวัดสมุทรสงคราม
(นะโม ๓ จบ)
นะมะระอะ นะเทวะอะ (๙ จบ)
(ป้องกันและรักษาสารพัดโรค – เสกเป็นน้ำมนต์ก็ดี)
คำอธิษฐาน ตั้งนะโม ๓ จบ
อุกาสะ ข้าพเจ้าจะขออาราธนาพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า และพระสงฆ์เจ้า คุณบิดา มารดา คุณครู อุปัชฌาย์อาจารย์
ข้าพเจ้า จะขอเอาอย่างพระลักษณะปิติทั้ง ๕ จงมาบังเกิด ในจักขุทวาร โสตะทวาร ฆานะทวาร ชิวหาทวาร กายะทวาร มโนทวาร แห่งข้าพเจ้าในกาลบัดนี้เถิด
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ (กราบ)
จบวิธีบูชาไหว้พระ
พระคาถาป้องกันภัยทั้งสิบทิศ
(ของอาจารย์ฝั้น)
เมื่อสวดคาถานี้ก็อาจสามารถป้องกันอันตรายจากสัตว์ป่านานาชนิด และภูตผีปีศาจทั้งหลายได้ ผู้ใดสวดเป็นประจำก็จะอยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีโรคภัยไขเจ็บมาเบียดเบียนและรอดพ้นจากภยันตรายทั้งหลาย จงตั้งใจสวดทุกเช้าทุกเย็น ก่อนออกจากบ้านไปไหนก็ตาม ถ้าสวดคาถานี้จะเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง มีโชคมีลาภและป้องกันอันตรายต่างๆ
บูรพารัสมิง พระพุทธะคุณัง บูรพารัสมิง พระธัมเมตัง บูรพารัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะ ภะยังวิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เมรักขันตุ สุรักขันตุฯ
อาคเนย์รัสมิง พระพุทธะคุณัง อาคะเนยรัสมิง พระธัมเมตัง อาคะเนยรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุฯ
ทักษัณรัสมิง พระพุทธคุณัง ทักษิณรัสมิง พระธัมเมตัง ทักษิณรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุฯ
หรดีรัสมิง พระพุทธะคุณัง หรดีรัสมิง พระธัมเมตัง หรดีรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุฯ
ปัจจิมรัสมิง พระพุทธะคุณัง ปัจจิมรัสมิง พระธัมเมตัง ปัจจิมรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะ ภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุฯ
พายัพรัสมิง พระพุทธะคุณัง พายัพรัสมิง พระธัมเมตัง พายัพรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุฯ
อุดรรัสมิง พระพุทธะคุณัง อุดรรัสมิง พระธัมเมตัง อุดรรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะ โรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุฯ
อีสานรัสมิง พระพุทธะคุณัง อิสานรัสมิง พระธัมเมตัง อิสานรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุฯ
อากาศรัสมิง พระพุทธะคุณัง อากาศรัสมิง พระธัมเมตัง อากาศรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุฯ
ปฐวีรัสมิง พระพุทธะคุณัง ปฐวีรัสมิง พระธัมเมตัง ปฐวีรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม รักขันตุ สุรักขันตุฯ
คำนมัสการพระบรมธาตุ
พระอรหันตธาตุ พระพุทธรูป
กราบ ๓ ครั้ง แล้วว่า นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (๓ จบ) แล้วว่า พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ (ไตรสรณาคมน์โดยย่อ)
รัตตนัตตเย ปมาเทน ทวารตเย นกตัง สัพพัง ขมถเม ภันเต วันทามิ ภันเต เจติยัง สัพพัง สัพพัตถ ฐาเน สุปติฏิฐิตัง สาริรังกธาตุ มหาโพธิง พุทธรูปัง สักการังตัดถะ อหังวันทามิ ธาตุโย อหังวันทามิ ธาตุโส อิจเจตัง รัตตนัตตยัง อหังวันทามิ สัพพทา พุทธะบูชา มหาเตชะวันโต ธัมมะบูชา มหัปปัญโญ สังฆะบูชา มหาโภคาวโห พุทธัง ชีวิตัง ยาวนิพพานัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง ชีวิตัง ยาวนิพพานัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง ชีวิตัง ยาวนิพพานัง สรณัง คัจฉามิ (กราบ ๓ ครั้ง)
(จะเป็นมหามงคลแก่ท่านที่เคารพนับถือ เกิดอำนาจ เกิดปัญญา เกิดลาภ)
พระคาถาบูชาพระบรมสารีริกธาตุฯ
อะหังวันทามิธาตุโย ข้าพเจ้าขอน้อมนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุทั้งหลายที่สถิตอยู่ในจักรวาลทั้งหลายทั้งพรหมโลก และดาวดึงส์
อะหังวันทามิสัพพะโส ข้าพเจ้าขอน้อมนมัสการพระสัมมา สัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ สาวกทั้งหลายทั้งปวงด้วย
พุทธัง ธัมมัง สังฆัง ธาตุโย จัตตารี สะ สะ มาทันต เกสา โลมา นะ ชาติ อะหังวันทามิ ธาตุโย.
คาถากำแพงแก้วเจ็ดชั้น
พุทธัง สัตตะรัตนะมะหาปะการัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สัตตะรัตนะมะหาปะการัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สัตตะรัตนะมะหาปะการัง สะระณัง คัจฉามิ
(สำหรับสวดภาวนา เสมือนมีกำแพงมหึมาคุ้มกันแม้อยู่ในถิ่นอันตราย ศัตรูและสัตว์ร้าย ไม่อาจทำอะไรได้ กลางคืนให้สวด ๗ จบ แล้วเอาจิต (นึกเห็น) วงรอบบ้านเริ่มจากขวาไปซ้าย เป็นทักษิณาวรรตป้องกันสรรพภัย วิเศษนักแล.)
คำอธิษฐาน
๑. พุทธัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ, ไฟในร่างกายของข้าพเจ้า...(บอกชื่อตัว)...ขอถวายแด่ พระพุทธเจ้าเข้าถึงพระนิพพาน ศัตรู มาร กรรม เวร อย่ามีมาผจญ เดชะพระกุศลจงมาบังเกิดสิ่งที่เป็นบุญเป็นกุศลให้เจริญรุ่งเรือง มีทรัพย์สินมหาศาลเป็นทานธารณะ ทำความสำเร็จกิจที่ตั้งใจ มหัศจรรย์เหนือมนุษย์ทั้งปวง
๒. ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ, ลมที่ข้าพเจ้าหายใจเข้าออกทรงไว้ซึ่งกาย...(บอกชื่อตัว)...ขอถวายแด่พระธรรมเจ้า เข้าถึงพระนิพพาน ทุกข์ วิตก เศร้าหมอง อย่ามีมาผจญ เดชะพระกุศล จงมาบังเกิดสิ่งที่เป็นบุญเป็นกุศล ให้เจริญรุ่งเรือง มีทรัพย์สินมหาศาลเป็นทานธารณะ ทำการงานสำเร็จ มหัศจรรย์เหนือมนุษย์ทั้งปวง
๓. สังฆัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ, อนาคตปัจจุบันของข้าพเจ้า...(บอกชื่อตัว)...ขอถวายต่อพระสังฆะเจ้า พระอริยะสังฆะเจ้า เข้าถึงพระนิพพาน บาปทั้งหลาย กรรมทั้งหลาย เวรทั้งหลาย ศัตรูทั้งหลายอย่ามีมาผจญ เดชะพระกุศล จงมาบังเกิดสิ่งที่เป็นบุญเป็นกุศลตั้งแต่วันนี้ให้เจริญรุ่งเรือง มีทรัพย์สินมหาศาลเป็นทานธารณะ ตั้งใจทำอันใดให้สมปรารถนา มหัศจรรย์เหนือมนุษย์ทั้งปวง
๔. อุกาสะ อุกาสะ
ข้าพเจ้า...(บอกชื่อตัว)...ขออัญเชิญเทพยดาทั้งหลาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่มีจริงถึงสิบหกชั้นฟ้า สุราลัย ตลอดจนกระทั่งภูเขาเลากาภูมิสถาน วัดวาอาราม ที่อยู่ของข้าพเจ้า ล้วนคนดีมีวิเศษมาประจำ จงปกปักพิทักษ์รักษาโพยภัยอันตรายใดๆ ภายนอกภายในขอบขัณฑะสันดานของข้าพเจ้า...(บอกชื่อตัว).. ปรารถนา งาน เงิน เกียรติยศ ชื่อเสียง อันหนึ่งอันใดที่ข้าพเจ้าต้องการ สิ่งนั้นๆอย่าขัดข้องในใจ ให้ความปรารถนา ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ทุกประการ ตั้งแต่วันนี้ สุโข โหมิ.
ธมฺมทีโป ภิกฺขุ (บัญชา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น